การแข่งขันฟุตซอลโลก 2024 ได้สร้างกระแสฮือฮาและความไม่พอใจในหมู่แฟนบอลทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนัดที่ฝรั่งเศสพบกับอิหร่านในรอบแรกของกลุ่มเอฟ ในการแข่งขันนัดนี้ ทั้งสองทีมต่างมีคะแนน 6 แต้มเท่ากันและได้การันตีการเข้าสู่รอบน็อกเอาต์แล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้เกิดดราม่าคือการที่ทั้งฝรั่งเศสและอิหร่านถูกกล่าวหาว่าไม่พยายามเล่นเต็มที่เพื่อเอาชนะ ทั้งนี้เพราะทีมที่ชนะจะต้องเผชิญหน้ากับบราซิล ทีมอันดับหนึ่งของโลกในรอบก่อนรองชนะเลิศ ขณะที่ผู้แพ้จะไปเจอกับทีมชาติไทยในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่ามากสำหรับพวกเขา
การแข่งขันนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะจังหวะในครึ่งแรกที่ทั้งสองทีมแทบไม่มีการยิงประตูจนกระทั่งเสียงโห่จากแฟนบอลอิหร่านดังก้องไปทั่วสนาม ความรุนแรงของดราม่านี้เพิ่มขึ้นเมื่อฝรั่งเศสเสียประตูแรกในครึ่งหลังด้วยจังหวะที่ดูเหมือนจะไม่น่าเกิดขึ้น ผู้รักษาประตูฝรั่งเศสปล่อยให้ลูกยิงของอิหร่านที่ไม่ได้แรงพอเสียบเข้าตาข่าย จนทำให้หลายคนตั้งคำถามถึงเจตนาของทั้งสองทีม
มิเกล โรดริโก้ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตซอลทีมชาติไทยที่มาชมเกมดังกล่าวเพื่อเช็กฟอร์มทีมที่ไทยจะต้องเผชิญหน้าในรอบต่อไป ได้แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อฟอร์มการเล่นของทั้งฝรั่งเศสและอิหร่าน โดยมิเกลโพสต์ข้อความบนอินสตาแกรมของเขาโดยใช้คำพูดที่เข้มข้นและตรงไปตรงมา เขากล่าวว่า “พวกคุณกำลังทำลายกีฬาที่ผมรัก” พร้อมตำหนิทีมทั้งสองว่าไม่ควรจะได้เหยียบสนามฟุตซอลอีก
คำตำหนิของมิเกลได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย หนึ่งในนั้นคือ รอสตามปูร์ เมห์ดี้ นักข่าวชาวอิหร่าน ที่ออกมาเห็นด้วยกับความเห็นของมิเกล โดยเมห์ดี้โพสต์ว่า ชาวอิหร่านจำนวนมากที่ได้ชมเกมนี้รู้สึกอับอายกับฟอร์มการเล่นของทีมชาติของตนเอง เมห์ดี้ยังวิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่นักเตะอิหร่านตั้งใจทำฟาวล์และรับใบเหลืองตั้งแต่เกมที่พบกับกัวเตมาลาอีกด้วย
การแข่งขันนี้ยังส่งผลกระทบไปถึงภาพลักษณ์ของวงการฟุตซอลและการแข่งขันฟุตซอลโลกโดยรวม หลายฝ่ายตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นธรรมและความตั้งใจของผู้เล่น รวมถึงการที่ผู้จัดการและเจ้าหน้าที่ของทั้งสองทีมไม่ยอมรับข้อบกพร่องในฟอร์มการเล่นของตนเอง
ทีมฟุตซอลทีมชาติไทยที่ถูกจับตามองในฐานะทีมที่ฝรั่งเศสจะต้องเจอในรอบ 16 ทีมสุดท้ายต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างยิ่งในการแข่งขันครั้งนี้ ทว่า มิเกล โรดริโก้ แสดงความมั่นใจว่า ทีมชาติไทยพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับฝรั่งเศส แม้การแข่งขันจะดูเป็นการเดินทางที่ยากลำบากก็ตาม
สุดท้ายนี้ ฟุตซอลโลก 2024 ยังคงเดินหน้าต่อไป และผู้ชนะในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะได้เจอกับผู้ชนะระหว่างปารากวัยกับอัฟกานิสถานในรอบต่อไป ความร้อนแรงของการแข่งขันครั้งนี้ยังคงเป็นที่สนใจของแฟนบอลทั่วโลก