วงการฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นที่นิยมไปทั่วโลก การแข่งขันทุกนัดเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและการตัดสินใจที่สำคัญที่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันได้ในเสี้ยววินาที แต่บางครั้งการตัดสินใจของผู้ตัดสินที่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม ซึ่งนำมาสู่การถกเถียงอย่างต่อเนื่องในหมู่แฟนบอลและผู้เล่น
เพื่อลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้น การใช้เทคโนโลยีวิดีโอมาช่วยตัดสินหรือที่รู้จักกันในชื่อ VAR (Video Assistant Referee) จึงถูกนำมาใช้ในการแข่งขันฟุตบอลระดับโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การใช้ VAR ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอลสมัยใหม่ มันได้เพิ่มมิติใหม่ให้กับการตัดสินใจของผู้ตัดสิน และช่วยให้เกมมีความยุติธรรมมากยิ่งขึ้นไปอีก
VAR คืออะไร?
VAR คือระบบที่ใช้วิดีโอช่วยในการตรวจสอบและตัดสินใจในบางจังหวะของเกมฟุตบอล ผู้ตัดสินจะสามารถขอความช่วยเหลือจาก VAR ได้ในสี่สถานการณ์หลัก ได้แก่
- การตัดสินใจเกี่ยวกับประตู (Goal Decision)
- การให้หรือไม่ให้จุดโทษ (Penalty Decision)
- การให้ใบแดงโดยตรง (Direct Red Card Decision)
- การตรวจสอบกรณีการระบุผู้เล่นผิด (Mistaken Identity)
กระบวนการทำงานของ VAR คือผู้ช่วยผู้ตัดสินที่นั่งอยู่ในห้องควบคุมวิดีโอ จะตรวจสอบการกระทำที่อาจก่อให้เกิดความผิดพลาดของผู้ตัดสินในสนาม หากพบเหตุการณ์ที่น่าสงสัย ผู้ช่วยผู้ตัดสินสามารถแนะนำให้ผู้ตัดสินหลักในสนามไปตรวจสอบวิดีโอซ้ำ เพื่อพิจารณาตัดสินใจอีกครั้ง
ข้อดีของ VAR
การนำ VAR เข้ามาใช้ในวงการฟุตบอลมีข้อดีมากมาย หนึ่งในนั้นคือการลดความผิดพลาดในการตัดสินใจที่สำคัญ โดยเฉพาะในจังหวะการทำประตูที่ถูกปฏิเสธหรือนับรวมโดยไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการตัดสินที่อาจไม่ยุติธรรม เช่น การล้มลงโดยเจตนาของผู้เล่นเพื่อเรียกจุดโทษ ซึ่ง VAR สามารถตรวจสอบและยกเลิกการให้จุดโทษได้หากพบว่าไม่มีการฟาวล์เกิดขึ้นจริง
นอกจากนี้ VAR ยังช่วยเสริมสร้างความโปร่งใสและความยุติธรรมในเกม เมื่อผู้ตัดสินมีความสามารถในการย้อนกลับไปตรวจสอบการกระทำที่พลาดไป การวิจารณ์จากผู้เล่น โค้ช หรือแฟนบอลก็จะลดลง ส่งผลให้เกมดำเนินไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
ข้อเสียของ VAR
คนบางส่วนเห็นว่า VAR ทำให้เกมขาดความต่อเนื่องและเสียเวลาไปกับการตรวจสอบ แถมยังมีบางกรณีที่การตัดสินจาก VAR ยังคงก่อให้เกิดความขัดแย้ง เนื่องจากแม้ว่าจะใช้เทคโนโลยีมาช่วย แต่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายยังคงขึ้นอยู่กับผู้ตัดสินหลัก ซึ่งอาจมองเห็นเหตุการณ์ต่างจากแฟนบอลหรือผู้เล่นได้เหมือนเดิมจนทำให้เทคโนโลยีไม่ได้ช่วยอะไรในกรณีนี้
อีกปัญหาคือ VAR ไม่สามารถตรวจสอบเหตุการณ์ได้ทุกครั้ง เนื่องจากมีขอบเขตที่จำกัดอยู่เพียง 4 สถานการณ์หลักเท่านั้น ทำให้บางจังหวะที่สำคัญแต่ไม่เข้าข่ายการตรวจสอบของ VAR อาจถูกละเลยได้