เมซุต โอซิล ตำนานเทพปรือแห่งฟุตบอลยุโรป

You are currently viewing เมซุต โอซิล ตำนานเทพปรือแห่งฟุตบอลยุโรป

ถือว่ากลับมาเข้มข้นกันอีกครั้งสำหรับวงการฟุตบอลยุโรปไม่ว่าจะในระดับนานาชาติที่การแข่งขันระหว่างทีมชาติยุโรปที่เพิ่งจบการแข่งขันศึกยูโร 2024 ไป และเกมการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดของแต่ละประเทศในทวีปแห่งนี้ โดยในวันนี้เราก็ขอนำท่านไปรู้จักอีกหนึ่งนักเตะในตำนานที่ในปัจจุบันแม้จะอำลาวงการฟุตบอลไปแล้วก็ตาม แต่หากย้อนไปในอดีตไม่กี่ปีก่อนจะถือเป็นเองเป็นนักเตะชาวยุโรปที่คนในประเทศไทยต่างรู้จักกันดีนั่นก็คือเทพปรือ “เมซุต โอซิล” 

บอล

โดยสุดยอดนักเตะที่มีนามว่า “เมซุต โอซิล” เป็นอีกหนึ่งสุดยอดนักเตะกองกลางชาวเยอรมันแห่งทีมชาติเยอรมัน และทีมฟุตบอลในวงการฟุตบอลยุโรปอีกหลายทีม ทั้งนี้ เขาเริ่มต้นเส้นทางนักเตะด้วยการเข้าร่วม “ทีมเยาวชนซัลเคอร์ 04” ตั้งแต่เมื่อปี 2005 ก่อนที่ในปีเดียวกันนั้นเองจะได้ขยับขึ้นไปเล่นกับทีมสำรอง โดยเขามีโอกาสเล่นกับทีมสำรองเพียง 1 นัด ก็ถูกผลักดันไปเล่นให้กับทีมใหญ่ในปี 2006 ก่อนที่ปี 2008 จะย้ายไปเล่นให้กับ “ทีมแวรเดอร์เบรเมิน” และในที่สุดฝีมือการเล่นฟุตบอลของยอดนักเตะกองกลางก็ไปถูกตาต้องใจทีมดังแห่งวงการฟุตบอลยุโรปอย่าง “ทีมราชันย์ชุดขาว เรอัล มาดริด” ในปี 2010 หลังจากรับใช้ทีมไป 105 นัด ยิงไปได้ 19 ประตู เขาก็ถูกขายให้กับ “ทีมปืนใหญ่ อาร์เซนอล” ด้วยราคาค่าตัวที่ 42.5 ล้านปอนด์  ท่ามกลางเสียงร้องของแฟนบอลที่บอกว่า “อย่าขายเขา”  แต่สุดท้าย เมซุต โอซิล ก็ย้ายมาอยู่กับทีมปืนใหญ่ในปี 2013 อยู่ดี อย่างไรก็ตาม พอมาถึงปี 2014 นักเตะชาวเยอรมันคืนนี้จะถูกมองว่าฝีมือการเล่นที่เคยรังสรรค์เตรียมการแข่งขันฟุตบอลในฐานะกองกลางได้ดีในอดีตกลับลดน้อยถอยลงเป็นอย่างมาก แถมมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าจนเป็นเหตุให้เขาต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานานถึง 3 เดือนด้วยกัน ภายหลังที่เขาหายจากอาการบาดเจ็บเขากลับมาฟิตซ้อมอีกครั้งและในที่สุดในปี 2015 เขาก็ได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ PFA ในปี 2015 และฤดูกาลแข่งขัน 2015-2016 นักเตะกองกลางชาวเยอรมันก็ได้ทุบสถิติใหม่ในฐานะผู้เล่นที่สามารถจ่ายบอ]ให้เพื่อนทำประตูได้สำเร็จในพรีเมียร์ลีกอังกฤษมากที่สุด และด้วยความที่มักมีบุคลิกลักษณะท่าทางตาปรือเหมือนคนอดนอนอยู่ตลอดเวลาทำให้แฟนบอลชาวไทยมอบฉายาเขาว่า “เทพปรือ”

บอล

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าเสียดายที่ในช่วงท้ายของอาชีพนักเตะเทพปรือคนนี้ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ เพราะด้วยปัญหาการเหยียบเชื้อชาติในการแข่งขันระดับนานาชาติทำให้เทพปรือออกตัวต่อต้าน และในที่สุดเขาก็ถอนตัวจากทีมชาติเยอรมันไป แถมมีปัญหากับสโมสรฟุตบอลปืนใหญ่จนต้องย้ายหนีไปเล่นให้กับทีมของสโมสรฟุตบอลเฟเนร์บาห์เช แห่งลีกตุรกี จากนั้นก็ย้ายทีมอีกครั้งไปอยู่ “ทีมอิสตันบูล” ก่อนจะโบกมือลาอาชีพนักเตะไปในปี 2023 ด้วยวัย 34 ปี